มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะป้องกันตัวที่มีมาหลายยุคหลายสมัย แม้ว่าการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้เรารู้สึกเจ็บตัว แต่ก็ยังมีหลายคนที่มองเห็นถึงประโยชน์ของการฝึกไม่น้อยเลยทีเดียว
อันที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครก็ได้ แค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ได้ประโยชน์แบบเดียวกันกับนักกีฬามืออาชีพแล้ว ซึ่งปัจจุบัน “ มวยไทย ” ( Muay Thai ) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในโรงยิม และมีหลากหลายประเภท ให้ประโยชน์อีกเยอะมากมาย ทำให้ผ่อนคลาย และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ร่างกายด้วย
1. พัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม
“ มวยไทย ” ( Muay Thai ) ทำให้คุณได้ทั้งเตะ กระโดด ใช้ฝีเท้าในการหลบหมัด และการชก ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนต้องอาศัยพลังงาน และความแข็งแกร่งอย่างมหาศาล เนื่องจากคุณต้องทำซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง
จงจำไว้ว่ากีฬาชกมวยมีจุดประสงค์ คือ ชกกับคู่ต่อสู้จนกว่าอีกฝ่ายจะน็อค แต่ถ้าไม่น็อคจะมีการนับคะแนน และตัดสินว่าคุณทำได้ดีแค่ไหนเมื่อจบการแข่งขัน ซึ่งหมายความว่า จำนวนหมัดที่เข้าเป้า และการป้องกันนั้น มีความสำคัญทั้งสิ้น
การชกมวยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อกระชับ นอกจากนี้ “ มวยไทย ” ( Muay Thai ) ยังเป็นกีฬาที่เน้นร่างกายช่วงบน ร่างกายช่วงล่าง และแกนกลางในเวลาเดียวกัน เป้าหมายของการต่อยมวย คือ ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกาย และระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ และความคล่องตัว
2. การเผาผลาญ
การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยก คือ การใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยก คือ การทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจน และไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน
การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง สามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลอรี่ใน 1 นาที
3. คลายเครียดได้ดี
เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีน และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผล และดีต่อสุขภาพ
4. หุ่นที่เฟิร์มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อยากมีซิกซ์แพคชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพ แล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝัน
5. ช่วยในเรื่องสมาธิ ลดความเครียด และความวิตกกังวล
การออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยในเรื่องอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว เพราะระหว่างที่เราออกกำลังกายนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้เรารู้สึกดีมีความสุขมากขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่คุณควรรู้ คือ การออกกำลังกายด้วยการซ้อมมวยนั้นเป็นการออกกำลังกายแบบที่เข้มข้นสูง และต่ำสลับกันไป ช่วงที่มีความเข้มข้นสูงนั้นก็คือ ช่วงที่คุณออกอาวุธได้ปล่อยหมัด หรือได้เตะ ส่วนช่วงที่มีความเข้มข้นต่ำก็คือช่วงที่เราฟุตเวิร์ค เตรียมพร้อมที่จะออกอาวุธนั่นเอง
6. ฝึกให้ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รวดเร็ว
การซ้อมมวยนั้นเป็นการฝึกให้ร่างกายของเรามีความสัมพันธ์ระหว่างตา สมอง และกล้ามเนื้อส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม การเป็นคนที่มีความแอ็คทีฟ กระฉับกระเฉง นั้นเป็นเพราะการซ้อมมวยจำเป็นจะต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงทุกส่วนของร่างกาย ระหว่างฝึกมวยจะต้องมีสมาธิ ตาจะต้องไว ต้องมีการออกอาวุธที่รวดเร็ว เคลื่อนที่ว่องไว สามารถหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ดี
7. เป็นการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม
กีฬามวยเป็นกีฬาที่โหดทรหดมากมาก จึงจำเป็นต้องอาศัยการฝึกร่างกายของเราให้แข็งแกร่งทุกสัดส่วนทั้งช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง มีช่วงกลางลำตัวที่แข็งแกร่งที่สามารถรับการโจมตีจากการออกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ และมีแขนที่ทรงพลังเพื่อเอาไว้ออกอาวุธที่มีพลังในการโจมตี
8. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
มวย ถือเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ช่วยให้เรามีปอดที่ใหญ่ขึ้น สามารถกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และหลอดเลือดได้ดี เพราะการที่จะทำเช่นนั้นได้เราจะต้องออกกำลังกายให้หัวใจ และปอดมีความเครียดในระดับปานกลาง ซึ่งทำให้หัวใจ และปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้นส่งผลให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ท่าพื้นฐานของ มวยไทย ( Muay Thai )
1. หมัดตรง
ท่าที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุดของการฝึก เริ่มแรก ให้ยืนปลายเท้าห่างพอประมาณ กำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก เก็บศอกแนบลำตัว ตามองตรง ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชกหมัดขวาไปด้านหน้าให้แขนขนานไปกับพื้น เปิดส้นเท้าขวาทิ้งน้ำหนักไปทางเท้าซ้าย จากนั้นให้กลับมาอยู่ในท่าเตรียม ทำต่อแต่สลับด้านกันจากซ้ายมาเป็นขวา ทำสลับไปมาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซักประมาณ 5 - 10 นาที
2. ตีเข่า
เริ่มต้นด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับหน้าอก แนบแขนให้ชิดลำตัวเช่นเดิม แล้วจากนั้นให้ยกเข่าขวาขึ้นสูงเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย กลับมาที่ท่าเริ่มต้น แล้วทำทำซ้ำสลับเข่าซ้ายขวา 5 -10 นาที
3. เตะ
เริ่มด้วยท่าเริ่มต้นเหมือนเดิมคือกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากที่ระดับหน้าอก จากนั้นก้าวเท้าซ้ายมาข้างหน้าพร้อม ๆ กับการเตะขาขวาขึ้นในลักษณะเหวี่ยง ให้ปลายเท้าชี้มาทางซ้าย บิดตัวเล็กน้อย แล้วกลับมาที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำสลับซ้ายขวาใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที
4. ถีบ
เริ่มจากท่าเริ่มต้น กำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับระดับของหน้าอก แนบแขนชิดติดลำตัว ตามองตรงไปข้างหน้า จากนั้นให้งอเข่าเล็กน้อยพร้อมกับเตะขาออกไปข้างหน้า แต่ปลายเท้าต้องตั้งฉากเท่าที่จะทำได้ กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำสลับซ้ายขวา ใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที
5. ศอกตัด
เริ่มต้นท่าเตรียมด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก จากนั้นก้าวเท้าขวาไปด้านขวา ตามด้วยการเหวี่ยงแขนซ้ายให้ข้อศอกตั้งฉากกับหมัดขวา บิดลำตัวนิดหน่อย บิดส้นเท้าซ้าย แล้วกลับมาที่ท่าเตรียม ทำสลับไปมาทั้งซ้ายและขวา ประมาณ 5 -10 นาที
“ มวยไทย ( Muay Thai ) ” เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย ยากที่จะเลียนแบบได้ เพราะศิลปะนี้เกิดขึ้นตามประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ได้มีการสู้รบกับชาติข้างเคียง เพื่อรักษาแผ่นดินสยามนี้มาโดยตลอด
แม้ว่ากีฬาเกี่ยวกับการชก มวยไทย ( Muay Thai ) จะยอมรับกติกามวยแบบสากลแล้วก็ตาม แต่ในส่วนพื้นฐานจริง ๆ ของความเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) เรายังรักษาไว้ มั่นคงตราบเท่าทุกวันนี้คือ ยังคงใช้ หมัด เท้า ศอก เข่า อันเป็นเอกลักษณ์ของ มวยไทย ( Muay Thai ) อยู่อย่างเหนียวแน่น
อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครแค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ยังได้ประโยชน์แบบเดียวกัน ปัจจุบันมวยไทย ( Muay Thai ) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในยิม และมีประโยชน์หลายอย่างด้วยเช่นกัน สามารถติดต่อสอบถามเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อสุขภาพ ได้ที่ เจริญทอง มวยไทย ทั้ง 3 สาขา ( สาขาข้าวสาร, สาขารัชดา, สาขาศรีนครินทร์ )
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม